แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกประกาศว่าเป็นสโมสรฟุตบอลที่รวยที่สุดในโลก แม้ว่าเรียล มาดริด จะได้ชื่อว่าเป็นสโมสรที่รวยที่สุดมาสองสามปีแล้ว แต่สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่ารายได้รวม 245 ล้านปอนด์ ต่อปีมากกว่ารายได้ของเรียล มาดริด
หากจะถกเถียงกันในเรื่องนี้ สโมสรหลายแห่งคงเข้ามาเกี่ยวข้องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีการแข่งขันกันทั้งในเรื่องของแฟนๆ ทั่วโลก และสปอนเซอร์ คาดว่าสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีแฟนทั่วโลก 333 ล้านคน เดวิด กิลล์ เชื่อว่าแฟนที่เหนียวแน่นมีอยู่ 139 ล้านคนโดยอยู่ในเอเชีย 85 ล้านคน
ไม่น่าประหลาดใจนักที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด สามารถทำกำไรจากชุดแข่งได้ถึง 59.6 ล้านปอนด์สูงขึ้นถึง 93 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน รายได้ของสโมสรเพิ่มขึ้นในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะสัญญาถ่ายทอดทีวี ตอนนี้ ขนาดของธุรกิจของสโมสรเปลี่ยนแปลงไปจากที่คุณจะคาดเดาได้ นับจากตระกูลเกลเซอร์ เข้ามาเทคโอเวอร์ในปี 2005 กิลล์ยืนยันว่าหากไม่มีการเทคโอเวอร์ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อาจจะไม่มีเงินพอจะซื้อผู้เล่นหน้าใหม่อย่างนานี่, แอนเดอร์สัน, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ และคาร์ลอส เตเวซ
“ผมคงไม่เห็นด้วยกับความคิดที่จะจ่ายเงินซื้อผู้เล่นใหม่ทีเดียว 4 คน หากการเงินเรายังเป็นเหมือนก่อนนี้ แต่ตอนนี้โครงสร้างทางการเงินของสโมสรเปลี่ยนไป การตัดสินใจทำได้ง่าย และเร็วขึ้น ตระกูลเกลเซอร์ เข้าใจถึงความต้องการมีทีมที่ประสบความสำเร็จ เล่นในแบบของเรา พวกเขาสนับสนุนผู้จัดการทีมด้วยเงินทุน”
“มีผู้คนส่วนหนึ่งที่ไม่เคยคิดว่าการเข้ามาเทคโอเวอร์ เป็นเรื่องดี แม้เราจะได้แชมป์สัก 10 ตำแหน่ง ตระกูลเกลเซอร์ ไม่ได้มาที่นี่เพื่อประชาสัมพันธ์ตนเองแล้วพวกเขาก็ไม่ใช่คนที่มีอีโก้ แต่พวกเขารักษาคำพูดของตนเอง พวกเขาบอกว่าจะไม่เปลี่ยนผู้จัดการทีม และสนับสนุนเขา จะไม่ปลดผม และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ จะลงทุนให้กับทีม พวกเขาทำตามนั้นทั้งหมด พวกเขายังสร้างมูลค่าของสโมสรจากรายได้ทางอื่น อย่างการเซนต์สัญญาให้ AIG เป็นสปอนเซอร์ด้วยมูลค่าที่เป็นสถิติโลก สถานการณ์ทางการเงินของสโมสรไม่ได้สร้างความกังวลให้พวกเขา รายได้พวกนี้ส่วนหนึ่งถูกนำไปใช้หนี้ และก็นำมาลงทุนในการซื้อนักเตะด้วย ธนาคารคงไม่ให้กู้หากรู้สึกว่าเสี่ยง”
ตุ้ม